บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV

"จานดำ" อันตราย โปรดรับชมรายการอย่างมีสติ

ปัจจุบันทีวีดาวเทียม หรือที่รู้จักกันดีในนาม "จานดำ" ได้แพร่กระจายไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ด้วยราคาค่าติดตั้งที่ถูกกว่า หรือประมาณไม่เกิน 3,000-4,000 บาท/จาน ที่สำคัญไม่มีการคิดค่าบริการรายเดือน มีช่องให้เลือกดูเป็น 100 เป็น 1,000 ช่อง ส่งผลให้ทีวีดาวเทียมได้รับความนิยม "เบียด" แซงฟรีทีวี หรือทีวีรายการปกติ 3-5-7-9-11 ตลอดจนเคเบิลทีวี หรือจานแดงไปอย่างไม่เห็นฝุ่น

ว่ากันว่า หากจะเช็กความนิยมในตัวทีวีดาวเทียมในต่างจังหวัดให้สังเกตการหายไปของหนวดกุ้งหรือเสาอากาศแบบก้างปลา ที่กำลังถูกแทนที่ด้วยจานรับสัญญาณดาวเทียมราคาถูกจากจีนที่ผุดขึ้นทุกหัวระแหงของประเทศไทย

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในประเทศก็สามารถติดตั้งจานดำรับสัญญาณดาวเทียมได้

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวขึ้นของจานดำดูเผิน ๆ เสมือนหนึ่งคนไทยมีทางเลือกมากขึ้น นอกเหนือไปจากการถูก "บังคับ" ให้ดูฟรีทีวี ซึ่งทราบกันดีว่าล้วนผูกขาดกับกลุ่มทุนที่แนบแน่นมากับทหารอย่างยาวนาน

ผู้ประกอบการสินค้าก็มีทางเลือกที่จะใช้ "ช่องทาง"

การโฆษณาผ่านทีวีดาวเทียม ส่งสารไปถึงผู้บริโภคโดยไม่ต้องวิ่งหาเอเยนซี่ที่ผูกขาดเวลาในการขายโฆษณาราคามหาโหดผ่านทางฟรีทีวี

เอาเข้าจริงเรื่องกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะรายการที่ออกอากาศในประเทศผ่านทางทีวีดาวเทียม หรือจานดำกว่าร้อยละ 90 พูดได้เต็มปากเลยว่า ล้วนแล้วแต่เป็น "รายการขยะ" ประเภทประมูลสินค้าราคาถูก ขายตรง ดูดวง สะเดาะเคราะห์ หินมหัศจรรย์รักษาทุกโลกแบบครอบจักรวาล ไปจนกระทั่งถึง ขายเครื่องรางของขลังประเภทตะกรุด ครุฑ สัตว์ในตำนานไทย-จีนที่สูญหายไปจากโลกนี้แล้ว

ในขณะรายการที่เหลือซึ่งน้อยมากจะเป็นรายการแนวเสื้อแดงเสื้อเหลือง บันเทิงหลุดโลก ภาพยนตร์ย้อนยุค เพลงลูกทุ่ง แต่ก็ยังไม่วายแฝงไว้ด้วยการโฆษณาขายสินค้าอีก

ความจริงการโฆษณาสินค้าผ่านรายการทีวีจานดำเหล่านี้ ไม่น่าเป็นห่วง หากขอย้ำว่า "หากว่า" ผู้บริโภคมีวิจารณญาณเพียงพอที่จะตัดสินได้ว่า อะไรคือจริง อะไรคือไม่จริง และอะไรคือหลอกลวง หรือเลือกที่จะเปลี่ยนช่องหันไปดูรายการช่องอื่น ๆ ที่พึงปรารถนา

แต่ภาวะที่เราไม่สามารถสกรีนคนดูทีวีจานดำที่มีทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่-คนแก่ นักบวชทุกศาสนา บุคคลร้อยแปดประเภทที่มีระดับความรู้ วิจารณญาณแตกต่างกันไป ต้องบอกว่าโฆษณาเหล่านี้อันตรายมาก ในเมื่อกว่า 80% ล้วนแล้วแต่เป็นโฆษณาสิ่งที่อ้างว่าเป็นยา ยกตัวอย่าง

ยาเม็ดแคปซูลที่อ้างสรรพคุณช่วยรักษาอาการนกเขาไม่ขัน หรือยาแคปซูลใช้รักษาโรคนอนกรน ยาเสริมสร้างสุขภาพ/พลัง จากการบรรยายตัวยาพิสดารจากทิวเขาคุนลุนสุดหล้าฟ้าเขียว และอื่น ๆ อีกสารพัดโรค

การโฆษณายาเหล่านี้ ร้อยทั้งร้อยล้วนบอกว่า "มี อย." ซึ่งในความหมายของคนทั่วไปจะเข้าใจว่า ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว นั่นหมายความว่า ปลอดภัย กินได้ แต่ไม่มีโฆษณาใดบอกว่า อย.นั้นเป็น อย.อะไร อาหารเสริมหรืออาหารทั่วไป เพราะการได้ อย.ไม่ได้หมายความว่า สินค้านั้นเป็นยา ยาที่ถูกต้องจะต้องมีเลขทะเบียนการขึ้นทะเบียนตำรับยาปรากฏอยู่ ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ

แสดงว่าเจตนาจงใจหลอกผู้บริโภคให้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นยารักษาโรค แถมด้วยการใช้หลักการตลาดแบบตื้น ๆ อาทิ ซื้อเดี๋ยวนี้แถมทันที หรือโทร.หาเราภายใน 5 นาทีรับไปอีก 1 แผง ทั้ง ๆ ที่ยาอวดอ้างสรรพคุณเหล่านี้ไม่ใช่ราคาถูก ๆ ตกประมาณกล่องละเป็น 1,000 บาทขึ้นไป

ที่สำคัญบางรายการถึงกับใช้วิธี "จ้าง" ดาราหรือบุคคลสาธารณะมานั่งฟังการบรรยายสรรพคุณ หรือพูดจาสนับสนุน โน้มน้าวให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า

เรื่องน่าเป็นห่วงก็คือ การโฆษณาผ่านทีวีจานดำเหล่านี้ ทำไมรัฐบาลไม่เข้ามาตรวจสอบ หรือจับกุม ดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงผู้บริโภค ถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย แต่กลับปล่อยปละละเลยให้แพร่ขยายผ่านช่องทางออกอากาศกันอย่างกว้างขวาง

ขอร้องเถอะครับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ "ไทย" หลอก "ไทย" หากินกับความเชื่อของพี่น้องด้วย
กันเอง

จาก: ประชาชาติธุรกิจ คอลัมน์ สามัญสำนึก  โดย ถวัลย์ศักดิ์ สมรรณะบุตร

ใช้ปัญญาในการรับชม และคิด  ไม่ว่าจะเหตุการณ์ใดๆ

จะทำให้เราไม่ตกหลุมพรางต่างๆครับ

ดีนะที่ไม่เคยซื้อยารับประทานเอง และไม่เคยเชื่อโฆษณาขายยาทางทีวีผ่านดาวเทียมเลย

ไม่เคยสนใจเลยพวกยาวิเศษ และไม่เคยเชื่อในคำโฆษณาสรรพคุณทางยา ขอให้เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5หมู่ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แค่นี้ก็มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาวแล้ว โดยไม่ต้องพึ่งยาวิเศษ

โฆษณาบนจานดำพอมีคนร้องเรียนก็สดุ้งโชว์ซะทีนึงแล้วก็เงียบ ที่เห็นโดนแล้วหายไปมีสักกี่รายกันนับนิ้วยังไม่หมดมือเลย เราคงต้องทนดูโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้ไปอีก นาน............

หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) อย. (องค์การอาหารและยา) น่าจะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้ และที่สำคัญ ผู้บริโภคต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกใช้สินค้าเหล่านั้นครับ ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า "จานดำกว่าร้อยละ 90 พูดได้เต็มปากเลยว่า ล้วนแล้วแต่เป็น "รายการขยะ"" ครับ

ทั้งหมด ทั้งมวล มันก็ขึ้นอยู่กับ ทั้งทางผู้ให้(เจ้าของกิจการ) กับผู้รับ(ผู้รับชม) กล่าวคือ.ผู้ให้มีจรรยาบรรณ
มีคุณธรมเพียงพอหรือไม่ ในอันที่จะ มอบสิ่งดีให้กัยผู้บริโภค  กับอีกฝ่ายผู้รับว่ามีวิจารณญาณ ในการ
เลือกบริโภคว่าคุ้มค่ากับการใช้จ่ายเงินที่ลงทุนไปหรือไม่เพียงใด ยิ่งการรับสื่อซึ่ง สามารถ ไปถึงทุกซอกหลืบ
ของประเทศ(จานดาวเทียม) ซึ่งผู้รับส่วนใหญ่อาจด้อยเรื่อง องค์ความรู้ ซึ่งรัฐอาจด้อยในเรื่องของการป้อน
โดยการใช้นโยบายประชานิยม..ลืมคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาว(สอนให้เขารู้จักวิธีหาปลาแทนการให้ปลา) ไทยก็ยังเป็นไทยเหมือนเมื่ออดีตที่ผ่านมา...โดยเฉพาะการปลุกระดม.....จะมีประโยชน์อะไรเมื่อ ชีวิตหนึ่งชีวิตและต้องรับผิดชอบ
อีกหลายชีวิต ต้องมลายจากไปเพื่อปกป้อง คนกลุ่มหนึ่งซึ่งสุขสบายร่ำรวยเสวยสุข ซึ่งเรียกว่าต่อสู้เพื่อเรียกร้อง โดยมีผลตอบแทน เพียงเงินทอง อาจจะมากสำหรับเขาที่อยู่เบืองหล้ง  โปรดพิจารณา...คุ้มกันแล้วหรือ..แด่ผู้จากไป

การเมืองก็ยังไม่นิ่ง  การตรวจสอบของ กบว.ก็หละหลวม   ช่องดาวเทียมก็เกิดขึ้นมาเยอะจัด
คงต้องพิจารณาด้วยตัวเองเป็นอันดับแรกก่อนล่ะครับ

ตาดู หูฟัง อย่างมีสติ แล้วปัญญาจะเกิด พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้

กด like ให้ผู้ที่นำเนื้อหาสาระดีเป็นประโยชน์กับสังคมมาลงให้ได้อ่านเพื่อที่ทุกคนจะได้เป็นส่วนร่วมสร้างสรรค์
เป็นเเนวคิด กระบอกเสียงให้รายการประเภทที่กล่าวมาให้ลดน้อยลงไปไม่มากก็น้อยครับ

ต้องดูอย่างมีสติ และใช้สมองคิดตามไปด้วย

อยู่ดึกๆก็ไปดูช่องบ้านสนุก (H..... Home) ไม่รู้หายไปยัง  .อิอิ

ผลิตภัณฑ์พวกนี้ ก็หากินกับผู้เจ็บป่วยและมีปัญหากับสุขภาพร่างกาย และจิตใจและผู้ที่ชอบทดลองเท่านั้น
เลยตกเป็นเหยื่อ คนที่สุขภาพดีไม่มีปัญหาก็ไม่ตกเป็นเหยื่อ ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

จานดำไทยคม 5 ซีแบนด์ จูนมาแล้วได้ช่องเยอะ แต่ดูแล้วเหมือนที่ท่านว่านั่นแหละไร้สาระ
ดูแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ของผมลบทิ้งหมดเหลือไว้ประมาณ 30 ช่องที่พอดูได้และพอ
เป็นประโยชน์บ้าง

ลองสังเกตุดู ปัญหาแบบนี้ มันจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายเก่าหายไปก็จะมีรายใหม่โผล่มาตลอด
 
 เพราะ  คนส่วนใหญ่ ไปหลงเข้าใจในทางที่ดีกับคำว่า  
อยู่ที่วิจารณญาณของผู้ชม    วิจารณญาณแบบโง่เง่าน่ะสิ

ไม่มีประเทศไหน จะทำได้อย่างเสรี เหมือนเมืองไทยอีกแล้ว
ไม่งั้น แก๊งตกทอง   แก๊ง call center หรือแก๊งต้มตุ๋นทั้งหลาย
 จะหากินได้เป็นระยะๆหรือ  

จะให้พึ่งหน่วยงานรับผิดชอบ   มาดูแลแก้ไข    คงต้องขาติหน้า
เคยโทร ไปถาม สคบ  กสทช  ว่า ตอนนี้  ทีวีดาวเทียมเมืองไทยมีกี่ข่อง
เป็นรายการอะไรบ้าง  รู้ไหม

คำตอบคือ  ไม่ทราบค่ะ  ไม่ทราบครับ  เพราะที่บ้านไม่เคยใช้  ที่สำนักงานก็ไม่มี  

เดี๋ยวรัฐบาลแก้ รัฐธรรมนูญเสร็จ โฆษณาเหล่านี้จะหมดไปเองนะ

จริงครับ

Hap.. Home
ฉายหนังR+ ถึง X- แล้วขายพระ ขายเหรียญ  แปลกดี

คงเอาแบบอย่างรายการดาวเทียม yamal 202 กระมั้งครับ มาตอนดึกๆ

ม้นจบแล้ว..........นับวันถอยหลังสำหรับประเทศไทย