ทีวีอนาล็อกแบบเดิมๆ ใช้คลื่นความถี่ในการส่งภาพ-เสียง
http://www.solocellthai.com/kraho/share/thai_tv_freq_fact.htmสิ่งที่นำมาใช้ คือ แบนด์วิธของคลื่น
ลองดูตาราง ช่องวิดีโอ จะเห็นว่าช่อง 2,3,4 ห่างกันอยู่ 7 MHz
แต่มันต้องมีเสียงด้วย
เท่ากับว่าเราใช้ 7 MHz นี้ในการส่งภาพและเสียง
สำหรับระบบอนาล๊อก
7 MHz นี้ จะส่งได้แค่ภาพ-เสียงเดียว
ไม่สามารถส่งมากกว่า 1 ภาพหรือ 1 เสียงได้
ถ้ามีการส่งมากกว่า 1 เสียงในคลื่นเดียวกัน
มันก็จะออกมาพร้อมกันทั้งหมด
แบบเดียวกับตอนขับรถ แล้วเปิดวิทยุ FM แล้วไปเจอคลื่นแทรก
แต่พอเปลี่ยนเป็นดิจิตอลแล้ว
ใน 7 MHz เราสามารถใส่มากกว่า 1 ภาพ-เสียงได้ โดยมันไม่ตีกัน
เปรียบเทียบกันแล้วก็เหมือนกับ Transponder นั่นแหละ
1 TP ก็คือ 1 ช่องสัญญาณ
ใน 1 ช่องสัญญาณ มีหลายภาพ-หลายเสียงได้
http://www.lyngsat.com/Thaicom-5.htmlเท่ากับว่าปริมาณช่องสัญญาณเท่าเดิม เราได้จำนวนช่องมากขึ้น
พอเปลี่ยนเป็นดิจิตอลแล้ว ก็ต้องเอาจูนเนอร์ดิจิตอลมารับด้วย
จูนเนอร์อนาล็อกจะไม่สามารถรับได้เลย
ทีวีรุ่นเก่าที่มีแต่จูนเนอร์อนาล็อก ก็ต้องหากล่องแบบดิจิตอลมาใช้รับ
ถ้าไม่มี AV in ก็เปลี่ยนทีวีได้เลย
ระบบการส่งสัญญาณ เป็นแค่ตัวกลางเชื่อม เอาไว้รับ-ส่งข้อมูล
ส่วนตัวข้อมูลจะดีหรือไม่ดี ชัดหรือไม่ชัด อยู่ที่ต้นฉบับ
ถ้าต้นฉบับมาแบบ Full HD ระบบรับ-ส่งดี ปลายทางก็เป็น Full HD
แต่ถ้าต้นฉบับมาแค่ 544x576 ต่อให้ DVB-T3,T4,T5
ปลายทางก็ได้แค่ 544x576
ที่คุยกันว่า ภาพคมชัด เสียงดี ก็ขึ้นอยู่กับต้นฉบับเช่นกัน
อย่าไปสับสนความหมายของคำ
ถ้าพูดถึง Analog,Digital
ระบบ Digital จะสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ไม่ผิดเพี้ยน
แต่ในการใช้งาน มันจะมีความสูญเสียอยู่
เราไม่สามารถใช้สาย DVI หรือ HDMI ที่ยาวมากๆได้ ทั้งที่ข้อมูลในสายเป็น Digital
เพราะตัวมันคือสัญญาณไฟฟ้าในสายทองแดง
เมื่อความยาวของสายยาวมากไปถึงจุดนึง มันก็จะใช้งานไม่ได้
เพราะโวลต์มันลดลงจนไม่สามารถแยกแยะว่าเป็น 0 หรือ 1
DVB-T ก็เหมือนกัน
ตัวมันคือคลื่นความถี่ มีกำลังส่งครอบคลุมแค่ในระดับนึง
ระบบทีวีเดิมครอบคลุมพื้นที่อยู่แค่ไหน
ถ้าไม่ขยายระบบการส่งสัญญาณ สัญญาณมันก็จะอยู่เท่าเดิมแค่นั้น
การเปลี่ยนจากอนาล็อกเป็นดิจิตอล ไม่ได้ทำให้สัญญาณครอบคลุมได้มากขึ้นกว่าเดิม
ตรงไหนที่หนวดกุ้ง,ก้างปลาดูไม่ได้เลย ก็พึ่งจานกันต่อไปครับ