ชื่อ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25, พฤศจิกายน 2024, 09:07:08 pm
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: :: ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าติดต่อ boransat@gmail.com ::

dvb

+  บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV
|-+  HD player,Tablet ,iPad,Galaxy Note
| |-+  เครื่องเล่น HD Player 4K - 8K TV
| | |-+  หลักการทำงานของเครื่อง HDD media player
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หลักการทำงานของเครื่อง HDD media player  (อ่าน 38721 ครั้ง)
poji99
Newbie
*
กระทู้: 7


อีเมล์
« เมื่อ: 25, พฤษภาคม 2010, 01:48:26 pm »

หลายท่านนึกสงสัยว่า เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ มีเดีย เพลเยอร์ ทำงานยังไง วันนี้ผมจะอธิบายให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
โดยขอปูพื้นฐานเรื่องความจุของที่เก็บข้อมูลก่อนครับ
เริ่มจาก เทป - VCD - DVD - Blu ray โดยความจุของแต่ละชนิดใหญ่ไม่เท่ากันครับ (ผมขอเริ่มจากวีซีดีนะครับ)
1. VCD จะใส่ข้อมูลได้ 700 Mb
2. DVD5 จะใส่ข้อมูลได้ 4.7 Gb ซึ่งเป็นเลเยอร์เดียว(ชั้นเดียว) และ DVD9 เป็น 2 layer จะใส่ข้อมูลได้ประมาณ 9 Gb ครับ
3. Blu ray จะใส่ข้อมูลได้ 25 Gb ที่ layer เดียว และ 2 layer จะได้ 50 Gb ครับ (ซึ่งปัจจุบันจะทำออกมาเป็น 2 layer เลยครับ)
ซึ่งภายในจะบรรจุข้อมูล 0101 (เป็น digital) ไว้ครับ จากนี้ก็ให้นึกถึงกระดาษม้วน(ทิชชู่ไว้ครับ) มันคือการบันทึกข้อมูล 0101 เป็นเส้นตรงแล้วม้วนจากวงในถึงวงนอกได้ความยาว 700 Mb, 4700 Mb(4.7Gb) , 50 Gb ครับ โดยความต่างของมันคือ ความหนาของกระดาษทิชชู่ครับ (หลายท่านก็คงเคยนึกสงสัยว่า แผ่น VCD, DVD , Blu ray ก็แผ่นกลมๆ เท่ากันทำไมมันถึงต่างกัน) คือมันต่างเพราะความหนาของร่องข้อมูลของแผ่น VCD มันหนาครับ ทำให้พันจากแกนในถึงสุดขอบนอก ยาวได้แค่ 700 Mb ครับ จากนั้นก็หลักการเดียวกัน DVD ก็มีร่องข้อมูลที่บางกว่าจึงพันได้ยาวกว่า VCD ครับ แต่ Blu ray จะต่างออกไปจากนี้นิดนึงตรงที่ว่า การอ่านข้อมูลในแผ่น VCD หรือ DVD ก็ตาม จะใช้แสงสีแดงเป็นเลเซอร์อ่านข้อมูลในแผ่น VCD และ DVD แต่ Blu ray นั้นได้ข้ามขีดจำกัดไปโดยการเปลี่ยนแสงในการอ่านให้เป็นแสงสีน้ำเงินซึ่ง แสงสีน้ำเงินมีขนาดเล็กกว่าแสงสีแดงครับ ทีนี้แหละจึงทำให้ร่องข้อมูลในบรูเลย์บางลงครับ เลยทำให้ได้ความยาวที่มากกว่าและสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า DVD ออกมาในตลาดครับ
แต่ถึงกระนั้น ใครจะอยากบรรจุข้อมูลในแบบ blu ray ล่ะครับ เพราะเราก็มี HDD ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นทาง sony ก็เลยเอามาตรฐาน blu ray นี้ไปให้กับโรงถ่ายหนังทั่วทั้งโลกครับว่า ต่อไปนี้ หนังที่แต่ละค่ายถ่ายทำอยู่จะสามารถทำให้ชัดได้แบบเหมือนต้นฉบับโดยไม่ต้องย่อให้เมื่อยตุ้มอีกแล้วเพราะ blu ray
ทีนี้ทุกท่านเริ่มเข้าใจความเป็นไปเป็นมาของการบันทึกข้อมูลลงแผ่นแล้วนะครับ จากนั้นให้เรามาดูรอบตัวเราครับ ปัจจุบันนี้โลกได้หมุนไปด้วย technology ที่ไม่เคยหยุดจนกระทั้งมีคนคิดค้น bit torrent (บิท ทอเร้นท์) ขึ้นมาครับ ไอ้ bit torrent นี้ทำให้โลกของเราแคบลงเลยครับเพราะ เราจะสามารถโหลดอะไรก็ได้จากในโลกนี้โดยที่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ครับว่าใครเป็นคนปล่อย file (ไว้มีเวลาวันหลังจะมาอธิบายการทำงานของ bit torrent นะครับ) และด้วยค่าลิขสิทธิ์ที่ Blu ray ทำออกมาแพงต่อแผ่นเหลือเกินจึงเกิดมีคนใจดีในโลกเรานี้ ยอมซื้อหนัง Blu ray มา 1 แผ่น แล้ว ก๊อปออกมาเป็น file จากนั้นก็ปล่อย file เข้าไปในระบบ bit torrent จึงทำให้คนทั่วโลกสามารถได้ file หนังแบบ blu ray มาเก็บไว้ที่บ้านครับ
ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องตามหัวข้อดีกว่าครับ
จริงๆแล้วการทำงานของเครื่อง Blu-ray เป็นลักษณะ
1.มีแผ่น Blu-ray ใส่เข้าไปในเครื่อง แล้วก็มี
2.หัวอ่านแสงสีฟ้า (มันถึงชื่อบลูเรย์) อ่านแผ่น (การอ่านออกมาเป็น 0101)
3.ก็ออกมาเป็น ซอฟไฟล์ จากนั้นก็
4.เอาไปประมวลผลที่เมนบอร์ด แล้วก็
5.ขับออกมาเป็นภาพ
ซึ่งเครื่อง HDD media player นั้นตัด 2 ข้อแรกออกครับ ได้มาเป็น file หนังที่มีบรรจุอยู่ใน HDD แล้วก็ประมวลผลออกมาเป็นภาพครับ

ทีนี้เครื่องตัวนี้ดีกว่า DVD ยังไง ง่ายๆครับ คือ สามารถขับภาพได้ 1080P ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่ทีวี LCD ของทุกค่าย สามารถขับได้ ซึ่ง DVD ก็ได้แค่ 480 หรือ 576 เส้นครับ และถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง blu ray ล่ะ หลายท่านอาจจะประสบเหตุการณ์แบบนี้
oเก็บจนไม่มีที่แล้ว
oหาแผ่นไม่เจอเพราะเยอะเกิน
oแผ่นเป็นลอยพอใช้ไปมากๆ
ดังนั้นคนที่รักหนังก็จะรู้สึกว่าไม่อยากจะเก็บแผ่นแล้ว และโลกปัจจุบันก็มีเรื่องการเซฟหนังเป็น soft file (ซอฟไฟล์)ใส่ฮาร์ดดิสก์ จะได้ไม่มีเน่าเสีย ไม่เป็นรอย ไม่ใช้พื้นที่เยอะ ซึ่งตอนนี้ เทรนของคน ส่วนมากก็เซฟแผ่นเป็น ซอฟไฟล์ ไว้ใน ฮาร์ดดิสก์กันเยอะแล้ว
และจากที่ตอนนี้มี อาชีพใหม่เกิดมาในประเทศไทยคือ รับขาย file หนังแบบ blu ray กิ๊กละบาท เรื่องนึงก็ประมาณ 10 กิ๊ก ครับ ซึ่งก็ตกประมาณ 10 บาทต่อเรื่อง ซึ่งทำให้การดูหนังของเรามีคุณค่าในการดูมากขึ้น ชัดมากขึ้น และต้นทุนหนังแต่ละเรื่องก็ถูกลงครับ

ขอบคุณมากครับที่เสียสละเวลาอ่าน แล้ววันหลังผมจะมาสรุปให้อ่านเรื่องอื่นๆต่อนะครับ

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ดาวดวงใหม่ของวงโคจร
Special Member
*
กระทู้: 5,695



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26, พฤษภาคม 2010, 01:04:23 am »

ขอบคุณมากครับ กำลังอยากทราบอยู่พอดีเลยครับว่า Blu-ray คืออะไร แล้วใช้ทำอะไร ใช้อย่างไร
ขอถามต่อว่า แผ่นราคาเท่าไหร่ เครื่องเล่นละ แล้วโหลดหนังในราคา 10 บาทนี่ เราจะไปโหลดได้จากที่ไหนครับ รบกวนขอคำตอบด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

poji99
Newbie
*
กระทู้: 7


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26, พฤษภาคม 2010, 10:07:16 am »

ขอตอบคำถามต่อนะครับว่า จริงๆตอนนี้แผ่น blu ray ขายกันในเมืองนอกก็ 17 เหรียญ (เวปอเมซอน) คือประมาณ 560 บาทครับ ซึ่งจริงๆแล้วมันมีสองแบบครับคือ
1. blu ray แท้ๆที่ทาง sony เป็นคนทำออกมาขายรวมค่าลิขสิทธิ์ที่คนไทยนำเข้ามาเช่น แมงป่อง ก็จะขายอยู่ที่ประมาณ 1500 บาท
2. แผ่น write จากแม่สาย(จากจีนนั่นแหละ) ก็ตกประมาณ 400-600 บาท ตามระยะทางนะครับ เช่น กทม ก็ 600 ถ้าไปซื้อถึงแม่สายก็ 400 ครับ ผมขออธิบายตรงนี้เพิ่มเติมนะครับว่า จริงแล้ว sony มีบทเรียนราคาแพงมากๆอยู่ครับ คือ การที่คิดค้น DVD ออกมาได้นั้นก็สามารถขายลิขสิทธิ์ต่างๆได้ใช่ไหมครับ (ยกตัวอย่างแผ่น MD ของ sony ซึ่งถ้าทำให้ไม่ดังก็ตายครับแต่ถ้าดังขึ้นมาก็ขายลิขสิทธิ์ยาว รวยไม่รู้เรื่อง) แต่ในโลกนี้ดันทำเครื่อง DVD writer ออกมาให้ทุกคนได้ใช้ มันเลยส่งผลให้ทุกคน write เองหมด ไม่ซื้อมันแล้วแผ่นแท้  นี่คือบทเรียนที่ sony จำฝังใจและจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นตอนนี้จะเห็นได้ว่า ไม่มีค่ายไหนทำเครื่อง Blu ray writer ออกมาเลย ซึ่งจริงๆก็ทำออกมาอยู่ครับแต่เป็นวงแคบๆและแผ่น Blu ray เปล่าด้วย
ดังนั้นถ้าถามผมตอนนี้ว่ามาตรฐาน blu ray ดีไหมก็ต้องตอบว่าดีมากทำให้ทุกคนได้ดูหนังชัดกันไปตามๆกัน แต่ถามว่าคุ้มไหมที่จะจ่ายเงิน ก็ต้องตอบว่าผมยอมซื้อ file มันดีกว่าครับ (ไม่ถูกลิขสิทธิ์น่ะ) เพราะชัดเท่ากันแต่ราคาถูกกว่าเยอะมาก (แต่ก็ต้องเสียเงินซื้อ HDD มาเซฟหนังอยู่ดี)
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาแล้วนะครับ
เครื่อง blu ray (อย่างน้อยๆก็ 6-7 พัน) กับ HDD media player ประมาณ 4500-10xxx (เอาเครื่องที่ขับ 1080p นะครับ อย่าไปเปรียบกับเครื่องที่ขับได้ 1080i นะครับ)
แต่หนัง blu ray 50 เรื่อง ไปซื้อที่แม่สายด้วย ก็ 50x400 = 20,000 บาท แต่ ถ้าซื้อแบบ file ก็ HDD ใหม่ 500 Gb = 1700 บวกกับค่าหนัง กิ๊กละบาท เป็น 1700+500 = 2200 บาท ต่อ 50 เรื่อง จะเห็นได้ว่า  ความคุ้มในระยะแรกก็คุ้มกว่าแล้วและถ้าหลังจาก 50 เรื่องแรกผ่านไปก็จะถูกกว่าไปเรื่อยๆครับ ดังนั้นผมว่า นวัตกรรมนี้กำลังมาแต่เมื่อไหร่ ก็เท่านั้นครับ
ส่วนเรื่องหนังโหลดได้ที่ไหน มีอยู่สองวิธีครับ คือ ฟรีเสียเวลาค่าไฟ กับ เสียเงินประหยัดเวลาประหยัดไฟ
1. ใช้ bit torrent ครับ โหลดเอาเลยได้กันฟรีๆ ตอนนี้มีแจกกันตรึม แต่ก็ต้องเปิดคอมไว้เสียค่าเนตค่าไฟครับแต่ได้ฟรีๆ
2. ซื้อเอาค้นหาใน google ครับ กิ๊กละบาท มีเต็มเลย หรือจะคนนี้ก็ได้ครับ http://www.dvd2hand.tv/forum/showthread.php?t=14468
เค้าขายมานานมีหนังให้เลือกเยอะ โหลด excel เค้ามาติ๊กครับ อยากได้เรื่องไหนยังไง แล้วก็สั่งซื้อโอนเงินพร้อมค่า HDD ใหม่ หรือถ้าเรามี HDD อยู่แล้วก็ส่งให้เค้าก็ได้ครับ

ขอบคุณมากครับที่ให้เสียสละเวลาอ่านกันครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ดาวดวงใหม่ของวงโคจร
Special Member
*
กระทู้: 5,695



อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 07, มิถุนายน 2010, 02:06:26 pm »

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

shure
Newbie
*
กระทู้: 13


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 15, สิงหาคม 2011, 04:31:24 pm »

ขอบคุณมากครับ ท่าน poji99 พูดจนเห็นภาพเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
kriengsak.b
บุคคลทั่วไป


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 03, ธันวาคม 2011, 10:27:52 am »

อธิบายได้ละเอียดเข้าใจง่าย มึความรู้เพิ่มอีกเยอะ ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  
 
ติด Banner ด้านล่างติดต่อ boransat@gmail.com
กระทู้ ความคิดเห็น บทความ ข้อความใด ๆที่ได้อ่านในบอรดนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแล ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ศิลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ boransat@gmail.com เพื่อที่ทีมงานจะได้ดำเนินการต่อไป



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.7 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.017 วินาที กับ 19 คำสั่ง