วันนี้(14 ม.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.). กล่าวถึงการปรับบทบัญญัติว่าด้วยการจัดสรรคลื่นความถี่จากเดิมเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติ มาเป็นทรัพยากรของรัฐนั้น ว่า กรธ.ไม่ได้ให้รัฐมีสิทธิเข้าดำเนินการรื้อระบบสารสนเทศ หรือระบบการใช้คลื่นความถี่ในปัจจุบัน แต่เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่าคลื่นความถี่นั้นเป็นทรัพยากรของคนไทยทุกคน เพราะ คำว่ารัฐ หมายถึง ประชาชน อธิปไตย และอาณาเขต ที่อยู่ภายในรัฐ ไม่ได้หมายถึง รัฐ ที่มีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดินเพียงอย่างเดียว" ส่วนกรณีที่กำหนดให้รัฐพึงมีองค์กรที่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่นั้น ต้องการสื่อไปยัง กสทช. ว่าการบริหารจัดการคลื่นความถี่ไม่ใช่ให้สิทธิขาดในการดูแลหรือจัดการคลื่นหรือนำคลื่นไปดำเนินการใดๆ ได้ตามใจชอบถือเสมือนว่าคลื่นความถี่นั้นเป็นของกสทช. ซึ่งการดูแลและการบริหารจัดการดังกล่าวต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก"นายมีชัย กล่าว
ประธานกรธ. กล่าวว่าอย่างไรก็ตามการปรับบทบัญญัติดังกล่าวไม่ใช่เป็นการเขียนเพื่อให้รองรับกับการบังคับใช้ร่างกฎหมายดิจิตอล ส่วนการเขียนให้ครอบคลุมถึงวงโคจร ด้วยนั้น เพื่อต้องการรักษาผลประโยชน์ว่าวงโคจรเป็นสาธารณะสมบัติของประเทศแม้เอกชนจะได้สัปทานจากรัฐ แต่ไม่อาจถือเป็นสมบัติของเอกชน ดังนั้นผู้ใดที่ได้รับสัปทานไปแล้ว ต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะด้วยเช่นกันจะทำอะไรก็ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐ นายนรชิต สิงกเสนี โฆษกกรธ. กล่าวว่า สาเหตุที่กรธ.เปลี่ยนหมวดในเรื่องคลื่นความถี่ จากของชาติมาเป็นของรัฐ เพราะต้องการเตือนหน่วยงานหนึ่ง จะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงประชาชน เป็นสำคัญ มิใช่อย่างลักษณะที่ทำว่าเป็นสมบัติของตัวเองที่จะทำอะไรก็ได้.
ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยโพสต์ ฉบับ วันที่ 15 มกราคม 2558 มา ณ ที่นี้ครับ
http://www.thaipost.net/??q=กรธแจงคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของรัฐกสทชอย่าคิดเป็นของตัว