GMM 1,690 บาทแพงไปป่าว

ท่านจำคนนี้ได้หรือเปล่า ที่ออกมาพูดทุกวัน ลองอ่านประวัติ เขาดูซิ...

ความท้าทายใหม่ "ธนา เธียรอัจฉริยะ" ยึด "ฮานามิ"สไตล์ปั้น "GMM Z"วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 22:11:00 น.

Share10

รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 8-14 มิถุนายน 2555

หวนคืนสังเวียนปลุกปั้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง ในบ้านหลังใหม่ "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" หลังจากกระโดดข้ามห้วยจากบริษัทมือถืออินเตอร์ "ดีแทค" มานั่งเก้าอี้ ซีอีโอ "แมคยีนส์" ได้ไม่กี่เดือน

"ธนา เธียรอัจฉริยะ" ตัดสินใจลาออกจากแมคยีนส์ โดยไม่หวั่นคำครหาว่า "ล้มเหลว" เพราะถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ เวลา 4 เดือน เท่ากับแค่ "ทดลองงาน" เท่านั้นเอง

"ตอนตัดสินใจมาแมคยีนส์ก็คิดว่าจะมาทำอะไรเยอะมาก แต่พออยู่ไปสัก 2 เดือน ก็รู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเรามาก ธุรกิจดีมากๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องการเปลี่ยนอะไรมาก สำหรับผม ถ้าเข้ามาแล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก อยู่ไปก็เปลืองทรัพยากรบริษัทเปล่าๆ เพราะเราเองก็ไม่ได้ต้องการเงินเยอะ แต่อยากทำงาน พอรู้แล้วจึงถอยและออกมาในที่สุด"

"ธนา" บอกว่า ที่เขาตัดสินใจลาออก เพราะไม่กลัวคำว่า "ล้มเหลว"

"คนอื่นอาจกลัวว่า คนจะมองไม่ดีที่อยู่แป๊บเดียวแล้วลาออก ล้มเหลวหรือแพ้ แต่ผมไม่กลัว ทุกครั้งที่แพ้หรือพลาด ผมได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เสมอ หลายครั้งทำให้ครั้งต่อไปสำเร็จได้ เหมือนสมัยที่ดีแทคก็ทำดีจุ๊ยซ์เจ๊งถึงมาทำแฮปปี้สำเร็จ ตอนเอาเงินที่บ้านมาเล่นหุ้นเจ๊ง ก็ได้เรื่องการออม หรืออยู่แมคยีนส์ได้เรียนรู้ว่า คนมีหลายแบบ คนที่ดีแทคไม่เหมือนคนที่แมคยีนส์ มาแกรมมี่ทำให้บริหารจัดการคนได้ดีขึ้น"

เหนือสิ่งอื่นใด ระยะเวลา 4 เดือนที่ "แมคยีนส์" ทำให้เขาเข้าใจตนเองมากขึ้นด้วยว่า ถ้าจะไปต่อ ไปเริ่มต้นใหม่ในฐานะ "ผู้บริหารมืออาชีพ" อีกครั้งกับองค์กรไหน เขาต้องการอะไรบ้าง

"ผมรู้ตนเองว่า ทำเพราะอยากทำ (งาน) ไม่ได้แค่ต้องการเงิน ถ้าจะให้ทนๆ ทำไป อยู่ดีแทคต่อไปก็ได้แต่ออกมาเพราะอยากทำอะไรใหม่ๆ "

"ธนา" บอกว่า องค์กรใหม่ที่จะร่วมงานด้วยต้อง มี 4 อย่าง 1. เจ้าของต้องเชื่อ และรู้สึกว่าเราทำได้ 2. ทีมงานดี เพราะลูกน้องสำคัญมาก ถ้าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายตีกันเอง ฝ่ายหนึ่งรายงานเจ้าของ อีกฝ่ายรายงานเราอยู่ไม่ได้แน่ 3. ต้องสนุก ความสนุกเกิดจากความท้าทาย และได้แก้ปัญหา ข้อ 4 สุดท้าย คือ ต้องรู้สึกว่า ตนเองมีประโยชน์กับองค์กรนั้นๆ

ที่ "จีเอ็มเอ็มแกรมมี่" มีครบทั้ง 4 อย่าง กับภารกิจสร้างบ้าน (ธุรกิจ) ใหม่ "ทีวีดาวเทียม-จีเอ็มเอ็มแซด" (GMM Z) "ธนา" จึงตัดสินใจกลับมาเหนื่อย และสนุก (มาก) อีกครั้ง

"ตอนจะมารับตำแหน่งซีอีโอจีเอ็มเอ็มแซทที่แกรมมี่ ผมคุยกับคุณไพบูลย์ (ดำรงชัยธรรม) ก่อนว่า ขอลองเข้ามาเป็นที่ปรึกษาก่อนสัก 3 เดือน จะได้รู้ว่า สไตล์ทั้งเขา และเรา เข้ากันได้ไหม ตำแหน่งสูงๆ บางครั้งคุยกันเคลียร์แล้วก็ไม่ได้ต้องลองมาทำงานจริง ได้มีตติ้งร่วมกัน 3-4 ครั้ง ก็พอรู้แล้วว่าทำได้อยู่ได้ไหม"

การสร้างบ้านหลังใหม่ธุรกิจใหม่ให้ "จีเอ็มเอ็มแกรมมี่" ไม่ง่าย แต่ท้าทาย (มาก) โดยมานั่งในตำแหน่งซีอีโอธุรกิจใหม่นี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาบอกว่า ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

ยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จแค่ไหน แต่สนุกและท้าทาย เพราะต้องทำทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องการสร้างแบรนด์, สร้างดิสทริบิวชั่น, เรื่องโอเปอเรชั่น, ด้านครีเอทีฟ, ด้านการเงิน, การตลาด, การขาย, การดีลกับพาร์ตเนอร์ และอื่นๆ อีกมาก

เรียกว่า งัดวิทยายุทธ์ที่สั่งสมมาทั้งหมดออกมาใช้เต็มที่

"ช่วงอายุ 20 กว่าเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ต้องอดทน ผมเรียกว่า เป็นช่วงเวลาหาอะไรใส่หัว ช่วงอายุ 30 เป็นช่วงได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ แต่พออายุ 40 เราจะรู้ว่า เราอยากได้อะไร เมื่อผ่านจุดต่างๆ มาแล้ว ผ่านความผิดพลาดล้มเหลวมา สำหรับผมความล้มเหลวผิดพลาดเป็นจุดที่สำคัญมาก เพราะทำให้เรามีของในตัวมากขึ้น เมื่อสามารถนำจุดต่างๆ มาต่อกันได้แล้วจะดี ผมเป็นนักต่อจุด เมื่อเต็มที่กับแต่ละจุด มันจะลากเส้นต่อไปให้เราเอง"

"ธนา" บอกว่า ถ้าไม่มีผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ทั้งการทำงานกับเจ้านาย กับลูกน้อง กับทีมงาน และไม่ได้ผ่านจุดที่เคยเป็นความล้มเหลวในอดีต ภารกิจใหม่ที่ "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" คงยากเย็นและไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีเท่าวันนี้

"แต่ก็อย่างที่บอก ที่จีเอ็มเอ็มแซทยังต้องไปอีกไกล อาจมีงานยากๆ ที่ท้าทายกว่าที่ผ่านมา เพราะที่นี่เพิ่งเริ่มต้น แต่ก็ถือว่า เอาออกมาจากไอซียูแล้วทำให้ทีมงานทำงานเป็นทีมได้แล้ว มีกระบวนการ และเป้าหมายข้างหน้าชัดเจน"

"ธนา" อธิบายการต่อจิ๊กซอว์ความสำเร็จให้กับธุรกิจทีวีดาวเทียม "จีเอ็มเอ็มแซด" ด้วยคำจำกัดความเรียบง่ายตามสไตล์ว่า "มหามิตร และมหาชน"

แปลได้ว่า ในมุมของผู้บริโภค "จีเอ็มเอ็มแซท" จะเป็นบริการสำหรับทุกคน เรียกว่า "ใครๆ ก็สามารถดูได้" (ซื้อกล่องรับสัญญาณราคาพันกว่าบาทไปต่อกับจานรับสัญญาณดาวเทียมที่มีอยู่แล้วก็ดูได้ทันที)

ส่วน"มหามิตร" คือสไตล์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่องการผสมผสานความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจที่มีความหลากหลาย

"เรื่องการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายการสื่อสารด้วยคำง่ายๆ ใช้ศาสตร์ทั้งศิลป์และมาร์เก็ตติ้ง วิชาพวกนี้ก็ได้มาตอนทำแฮปปี้ การทำเซลส์โปรโมชั่นในห้างก็ได้วิชามาจากแมคยีนส์ ผมพูดบ่อยๆ ว่าจีเอ็มเอ็มแซททำธุรกิจแบบฮานามิ คือรวยเพื่อน เป็นคำง่ายๆ ที่พูดแล้วเห็นภาพ การได้ออกไปเดินตลาดไปแนะนำวันสกาย (ชื่อเดิม) ทำให้รู้ว่า ชื่อไม่ได้ สีก็ไม่ได้ ตลาดชาวบ้านต้องใช้สีจัดๆ จึงกลับมาระดมความคิดกันภายในบริษัท"

เขาบอกว่า นั่นทำให้รู้ว่า แกรมมี่เป็นบริษัทที่เปิดกว้างกับการเปลี่ยนแปลงขอให้มีอะไรที่โดนใจเถอะพร้อมที่จะเปลี่ยนได้ง่ายๆ เลย แต่ละฝ่ายจึงมาช่วยกันคิดชื่อใหม่ จนได้มาเป็น "จีเอ็มเอ็มแซท" ที่มีสีสันสดใสอย่างที่เห็น

"ธนา" บอกว่า ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและทีมงานในแกรมมี่อย่างอบอุ่น เพราะ "จีเอ็มเอ็มแซท" เป็นน้องเล็กที่ทุกคนอยากเห็นความสำเร็จร่วมกัน

"สิ่งที่แกรมมี่มีอยู่แล้วคือ คอนเท้นต์ในมือมากมาย แต่ยังไม่มีแพลตฟอร์ม (บ้าน) ก็สร้างขึ้นมา มีรายการเยอะแยะ แต่จะทำอย่างไรถึงจะทำเงินได้ เป้าหมายปีแรกของจีเอ็มเอ็มแซทอยู่ที่ 2 ล้าน (ฐานลูกค้าจากการขายกล่องรับสัญญาณ) ตอนนี้ได้แสนกว่า ต้องทำอีกเยอะมาก งานนี้หนักที่สุดในชีวิต และกดดัน เพราะยากและมีเวลาจำกัด แต่อยากทำอะไรจึงพร้อมที่จะงัดวิทยายุทธ์ที่มีออกมาใช้"

จะสำเร็จแค่ไหน โปรดติดตาม

	ชื่อ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน 02, กรกฎาคม 2024, 08:41:07 pm

ข่าว: :: ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าติดต่อ boransat@gmail.com ::