หัวข้อ: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: animax ที่ 16, กันยายน 2011, 09:13:06 am
มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า หากจะดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD ที่เล่น File หนังได้
เทคโนโลยี 3 มิติ ในทีวีทั้ง 3 ประเภท
1. Anaglyphic 3D หรือ ภาพ 3 มิติแบบแว่น 2 สี (Passive) เป็นการรับชมภาพ 3 มิติโดยใช้ แว่นสองสี โดยทั่วไปจะะใช้สีแดง-ฟ้า เพื่อกรองสีภาพเฉพาะที่ต้องการให้แสดงเข้าตาซ้ายและตาขวา เพื่อให้เกิดมีมิติภาพขึ้นมา โดยในปัจจุบันนี้ หนัง 3 มิติแบบ Anaglyphic สามารถหาซื้อได้ทั่วไปทั้งแผ่น DVD หรือหนังแบบ High Definition ก็มีมาให้เห็นแล้วเช่นเรื่อง Monster VS Aliens ที่ทำออกในในรูปแบบ Blu-ray ซึ่งจะแถมแว่นกระดาษ 2 สีมาให้ด้วยถึง 4 อัน หรือแม้กระทั่งล่าสุดอย่างเรื่อง The Final Destination ก็ทำหนัง High Definition ในรูปแบบ Blu-ray ออกมาในรูปแบบ Anaglyphic 3D เช่นกันครับ
ข้อดี: แว่นตามีราคาถูก ทั้งแบบกระดาษและพลาสติค และยังมีหนังแบบ DVD ขายอยู่ ข้อเสีย: สีเพี้ยน ภาพไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ มิติภาพจะดูหลอกตา
อุปกรณ์ต้องมีในการรับชมภาพสามมิติแบบ Anaglyphic 3D 1. แผ่นหนัง DVD หรือ Blu-ray แบบ Anaglyphic 2. แว่นตา 2 สี ซึ่งมีสีที่คู่กันดังต่อไปนี้ แดง-ฟ้า / ฟ้า-เหลือง / ชมพู-เขียว (สีของแว่นกับหนังต้องสอดคล้องกันนะครับ) 3. TV ธรรมดาๆ LCD TV, Plasma TV, CRT TV ก็ดูได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นทีวีสามมิติ
2. Polarized 3D หรือ ภาพ 3 มิติแบบ "สลับเส้นเลขคู่เลขคี่" (Passive) สำหรับประเภทของเทคโนโลยี 3D อย่างที่ 2 ก็คือ Polarized 3D ครับ ซึ่งหลักการทำงานของมันก็คือ เราจะต้องมี 3D TV แบบ Polarized และแว่นตาแบบ Polarized Glasses โดยหลักการก็คือ ทีวีจะปล่อยเส้นภาพเลขคู่ เช่น 2,4,6,8,
1080 สำหรับตาซ้าย (540 เส้น) และ เส้นภาพเลขคี่ 1,3,5,7,
,1079 สำหรับตาขวา (อีก 540 เส้น) สลับกันอย่างรวดเร็ว วิธีการนี้เรียกว่า Line by Line หรือการส่งภาพ สลับเส้นเลขคู่และเลขคี่ เพื่อส่งให้ตาทั้ง 2 ข้าง และเมื่อเราใส่แว่น Polarized เข้าไป เลนส์สำหรับตาซ้ายก็จะสามารถ รับภาพเส้นเลขคู่ได้อย่างเดียว ในขณะที่เลนส์ขวาก็จะสามารถรับภาพจากเส้นเลขคี่ได้อย่างเดียว ทำให้การรับภาพโดยตาซ้ายและขวา สลับกันอย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงเกิดภาพ 3 มิติลอยออกมาครับ ตัวอย่าง TV ที่ใช้เทคโนโลยี Polarization 3D ก็ได้แก่ LG LCD TV รุ่น LH503D ซึ่งเป็นการเอารุ่น LH50YR ของปีที่แล้วมาทำการดัดแปลงให้เป็น 3D TV แบบ Polarization และ JVC 3D LCD Monitor ที่ที่ผ่านมา และรวมถึง โรงหนัง 3 มิติอย่าง Imax อีกด้วย ง่ายๆเลยครับที่มีเจ้าหน่าที่แจกแว่นหน้าโรงภาพยนตร์นั่นแหละครับ นั่นแหละ แว่น 3D แบบ Polarized แบ่งเส้น "เลขคู่" และ "เลขคี่" ในการส่งภาพออกจากจอสลับกันอย่างรวดเร็วและแว่น จะเป็นตัวกรองเส้นเลขคู่เลขคี่ ให้เข้าตาซ้ายและขวาสลับกัน ภาพจึงลอยมีมิติ
ข้อดี: มิติภาพลอยออกมามากที่สุด แว่นใส่สบายตา ข้อเสีย: ความคมชัดหายไปครึ่งนึง เนื่องจากทีวี Full HD จะมีความละเอียดหน้าจอ 1080 เส้น แต่ต้องแบ่งความละเอียดของภาพจาก 1080 เส้น ต้องแบ่งเป็น 540 เส้นสำหรับตาซ้ายและอีก 540 เส้นสำหรับตาขวา
หมายเหตุ: ปัจจุบันเริ่มมี 3D แบบ Polarzied ที่เป็น Full Frame ออกมาแล้ว (พวก 3D Projector ทั้ง Home Use และ โรงหนัง ซึ่งต้องใช้จอ Silver Screen จอเงินควบคู่กันไปด้วย) ซึ่งจะไม่จะไม่สูญเสียความละเอียดของภาพถ้าเทียบกับ Polarized ประเภทแบ่งเส้น
อุปกรณ์ที่ต้องมีเมื่อจะดู 3D แบบ Polarization 1. TV ที่เป็น 3D แบบ Polarized 2. แว่น 3D แบบ Polarized 3. Content เช่นแผ่นหนังแบบ 3D Line by Line หรือ ถ้าเป็น Content 3D แบบอื่นๆ ตัวทีวีก็จะมีความสามารถในการแปลงภาพให้เป็นแบบ Line by Line (ส่งภาพสลับเส้นเลขคู่และเส้นเลขคี่)
3. Frame Sequential 3D: ส่งเฟรมภาพซ้าย-ขวาสลับกัน (Active) แน่นอนครับว่าแบบใหม่ล่าสุดนี้อยู่ใน 3D TV ทั้ง Samsung, Sony, LG, Panasonic ซึ่งใช้หลักการ Frame Sequential ทั้งหมด โดยหลักก็คือทีวีจะส่ง เฟรมภาพ ทั้งเฟรม เข้าตาซ้ายและตาขวาสลับกันอย่างรวดเร็ว (สำหรับตาซ้าย 60 เฟรมภาพต่อวินาที และตาขวา 60 เฟรมภาพต่อวินาที) จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเราเห็นภาพ 3 มิติบนจอทีวีนั้นมีความเหลื่อมซ้อนซ้ายขวากัรอยู่พอสมควร และเมื่อเราใส่แว่น 3D Active Shutter Glasses ที่เลนส์ตาซ้ายและเลนส์ตาขวาจะเปิดปิดสลับกันอย่างรวดเร็วให้สอดคล้องกับทีวีที่ส่งเฟรมภาพสำหรับตาซ้ายและตาขวาสลับกัน ทำให้ภาพลอยมีมิติออกมาครับ
สิ่งที่ต้องมีเมื่อจะดู 3D แบบ Frame Sequential 1. 3D TV แบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นแบบ Frame Sequential หมดแล้ว 2. แว่นตา Active Shutter Glasses 3. เครื่องเล่น Blu-ray แบบ 3D ที่สามารถ Output ด้วย HDMI V1.4 4. แผ่นหนัง Blu-ray แบบ 3D เช่นเรื่อง Monster VS Aliens และ Cloudy with a chance of Meatball
ข้อดี: ความคมชัดของภาพสูงสุด เพราะทีวีส่งเฟรมภาพออกมาทั้งเฟรม ไม่มีลดทอนเส้นแบบวิธี Line by Line ของ Polarized 3D และมิติภาพก็ถือว่าได้แนวลึกมีมิติดีเยี่ยม ข้อเสีย: แว่นตาต้องใส่แบตเตอรี่ ทำให้ต้องเปลี่ยนหรือชาร์จบ่อยๆ และรวมถึงต้องเชื่อมต่อแว่นกับทีวีด้วยสัญญาณ Infrared ตลอดเวลา ทำให้ระยะห่างในการรับชมมีจำกัด
Credit by LCDTV Thailand
หัวข้อ: Re: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: yuri ที่ 16, กันยายน 2011, 11:13:02 am
แจ๋วไปเลยครับ...ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
หัวข้อ: Re: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: fat ที่ 16, กันยายน 2011, 12:21:02 pm
ขอบคุณมากครับท่านanimax
หัวข้อ: Re: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: kha ที่ 16, กันยายน 2011, 10:40:40 pm
ขอบคุณ พี่ animax ที่แนะนำเสนอข้อมูล ความรู้ที่ดีๆสำหรับพีน้องเวปบอร์ด..ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: kusalodom ที่ 17, กันยายน 2011, 07:33:11 pm
แล้วแบบ LG ที่แว่นไม่ต้องใช้แบต เป็นเทคโนดยยีตัวไหนครับ
หัวข้อ: Re: มารู้จักเทคโนโลยี 3D กันดีกว่า ดัดแปลงมาใช้กับเครื่องรับ HD
เริ่มหัวข้อโดย: K-PluS ที่ 19, กันยายน 2011, 01:59:19 pm
ขอบคุณครับ ผมก็เพิ่งรู้นี่เองว่าทีวีที่บ้านทำงานยังไง
|
ติด Banner ด้านล่างติดต่อ
boransat@gmail.com
กระทู้ ความคิดเห็น บทความ ข้อความใด ๆที่ได้อ่านในบอรดนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ
ผู้ดูแล ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ศิลธรรม
กรุณาแจ้งมาที่ boransat@gmail.com เพื่อที่ทีมงานจะได้ดำเนินการต่อไป
|
|
|