บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV

เรื่องมีอยู่ว่า จ้างช่างมาปรับหน้าจานดำพร้อมทำดูโอ nss6 ช่างปรับสัญญาณ nss6 จากเครื่องวัดได้ประมาณ 50 เต็มที่ แล้วบอกว่านี่คือคุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุดแล้ว ผมแย้งไปว่า ผมปรับ thaicom KU ด้วยตัวเอง คุณภาพเกือบ 100  เพื่อนๆว่าผมควรจะเชื่อคำพูดช่างท่านนี้ได้หรือไม่ครับ ค่าจ้างแพงไม่ว่า แต่คุณภาพบวกความรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ผมขอให้จัดให้สัก 70-80 เพื่อนๆว่าสามารถทำได้ไหม หรือฝีมือไม่ถึงครับ

ดูโอ้ได้50ก็โอเคแล้วครับถ้าจะเอา70-80ต้องเพิ่มจานkuครับได้แน่สำหรับnss6

แล้วถ้าฝนตกจะรับได้เหรอครับ ขนาดสภาพอากาศท้องฟ้าปกติ รับได้แค่เพียง 50 เอง ระหว่างทำดูโอกับจานดำ 5.5 ฟุต  กับดูโอจานทึบ60ซ.ม.  แบบไหนจะดีกว่ากันครับ  ขอบคุณครับ

50มันน้อยไปควรจะได้อย่างน้อย65-70ครับ-กับจานดำน่ะครับ-ถ้าได้น้อยกว่านี้ช่างควรจะพิจารณาด้วยครับ

จานกี่ฟุตล่ะครับ ถ้า 6 ฟุต น่าจะ 60-65 ขึ้นได้ครับ

จาน dynasat 5.5 ฟุต ครับ

ถ้าเป็นผม ผมซื้อจานแดงมือสองมาติดเองซะเลยก็หมดเรื่อง 

หัว  LNB ก็มีแล้วค่าจานมือสองบวกค่าขนส่งก็ประมาณ 400-500 บาทอย่างมาก  จบเลยครับ

อิๆ คุยได้ครับเพิ่งไปติดมา มั่วกันตั้งนานกว่าจะได้  ฮ่าๆๆ  นึกว่าเสียฟอร์มซะแล้วเหนื่อยตกเลย เอิ๊กๆๆๆ

เอาสัญญาณชัวร์ๆคงต้องติดจานแยกครับ ทำดูโอตัวแปรมันเยอะครับ จะให้ได้เป๊ะๆมันเป็นไปได้ยากครับ

จานไม่ใช่ 6 ฟุต ทำ duo ได้ 50-55 ก็หรูแล้วครับ จะให้ถึง 70-80 คงไม่มีทางแน่นอนครับ

รู้มากแต่รู้ไม่จริงก็ไม่ดีนะครับ

ได้แค่นี้ดูไปก่อนเหอะ กับคำพูดของคุณที่ว่า.......(คำพูดช่างท่านนี้ได้หรือไม่ครับ ค่าจ้างแพงไม่ว่า แต่คุณภาพบวกความรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ผมขอให้จัดให้สัก 70-80 ) ...ผมว่าคุณน่าจะเอาเงินที่คุณต้องเสียให้ช่างมาซื้อจานมือสองอย่างที่ท่านข้างบนบอก มาติดเพิ่ม คงจะดีกว่า ...คุณทราบหรือไม่ว่าการทำดูโอ อาศัยพื้นที่การสะท้อนเพียงเสี้ยวหนึ่งของจานใบนั้น (ระหว่าง 95 องศากับ78.5องศา)กอรปกับระบบเคยู ที่รองรับด้วยจานตาข่าย) มันคงไม่เต็ม100กระมังครับ...พูดอย่างเป็นกลางๆนะครับอย่าขึ้งโกรธกัน

ผมติดจานเอง170ซม ดูโอnss6 ได้50ก็พอแล้วเอาอะไรมากมายกับการดูโอ้รับได้หมดก็ok อยากแรงๆๆๆๆก็ตั้งจานไหมสิ สัญญาณแรงมันชัดขึ้นหรอคับ คุณบอกว่าตั้งรับไทยคมkuได้เต็มร้อย แล้วnss6ตั้งรับตรงๆๆจะได้ร้อยหมคับมันคนละดาวกัน ช่างคนไหนเขาไม่หวงสัญญาณหลอกเขาจะห่วงไปทำไมทำให้บ้านเขาชัดขึ้นหรอคับ

ซื้อจานแดงมือ2 เลยครับ เพิ่มอีกใบ สัญญาณแบบตรงๆ เต็มๆ

ถูกต้องนะครับ

ถ้าใส่ความตั้งใจ ผลที่ออกมาก็จะดีกว่า  ทำแบบขอไปที!!

เท่าที่ผมเคยลองดู เกี่ยวกับคุณภาพของ LNB แต่ละรุ่นด้วยครับบางตัวปรับให้เนียนยังไงก็ ได้ 50 ครับ

ในความเห็นของผม ผมว่าช่างไม่ผิดหรอก การทำดูโอ้ได้แค่นั้นก็หรูแล้ว อีกอย่างเครื่องรับแต่ล่ะเครื่องอ่านค่าไม่เท่ากันหรอก เอาเป็นว่าดูได้ก็น่าจะพอใจแล้ว เอาสูงกว่านี้ ก็คงดูได้เท่าเดิมนั้นแหละอีกอย่างฝนตกก็ดูไม่ได้เหมือนเดิมเพราะว่ามันเป็นที่ระบบ ku มันโดนฝนไม่ได้อยู่แล้วไม่เกี่ยวกัน

ทำดูโอ้แบ่งสัญณาณในการรับ สู้รับโดยตรงไม่ได้ อย่างมากทำให้รับได้มากที่สุด ก็ถูกของช่างท่านนั้นแล้ว รู้ต้องรู้ให้ครบว่านั้นจะรับได้เต็มที่  ก็ติดอีก 1 ใบครับได้ตามที่อยากได้

ต้องดูว่าเขาใช้เครื่องอะไรในการปรับล่ะครับ.......เกณท์ของมิเตอร์วัดระดับสัญญาณของแต่ละเครื่องมันไม่เท่ากัน... แล้วที่ท่านบอกว่าปรับจานไทยคม ku แล้วได้ เกือบ 100% ท่านใช้เครื่องใดครับ ถ้าใช้เครื่อง ที่มิเตอร์ อ่อนๆๆ ปรับได้ 40 ก็ = 100   ปรับได้ 60 ก็=100  ปรับได้ ......ครับ ลองปคิดดู      แต่ผมว่า ดูโอ เนี่ย มันมี องค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งพื้นที่ สถานที่ สภาพหน้าจาน สัญญาณรบกวน ในจุดนั้นๆ..อีกเยอะครับ..เขาปรับได้ 50  ผมว่าก็ฝีมือแล้วครับ

จขกท. ปรับ thaicom KU ด้วยตัวเอง คุณภาพเกือบ 100 

เอาไปเปรียบ กับ DUO NSS6 บ่ได้ดอกครับ

50 ก็หรูแล้ว

ลองดูโอกับเครื่อง 801 สิ ห้าสิบนะเก็บของกลับบ้านได้เลย

จานขนาดนี้-ความแรงของเครื่องรับที่มีการรับมาตราฐาน-น่าจะอยู่ที่60-65 แต่ช่างต้องฝีมือนิ่งๆ ใจเย็น

ผมก็เริ่ม งง  เหมือนกันนะครับความแรง 50 กับ 60 ขึ้นไปมันทำให้ภาพชัดเจนมากขึ้นด้วยหรือป่าว ...

ถ้าความแรง 50 สามารถดูได้ทุกช่อง  แล้วมันต่างกับความแรง 60 ขึ้นไปตรงไหนบอกหน่อยเป็นความรู้

ขนาดผมติดจานรับตรง ปรับได้แค่ 60 ผมก็พอแหละก็มันรับได้ทุกช่องแล้วนิจะเอาอะไรนักหนาล่ะ 

ที่หลังถ้าจะทำ DUO ก็น่าจะบอกช่างก่อนมาติดตั้งว่า DUO แล้วต้องสัญญาแรง 70-80 นะครับถึงจะยอมจ่ายตังค์

คิดว่าคงมีช่างจานดาวเทียมคงแย่งกันมาทำน่าดู  เอิ๊กๆๆๆ  มาตราฐานน่าจะแค่ว่าดูได้ครบทุกช่องก็น่าจะพอแล้ว

ถ้าผมเป็นช่างติดตั้งจานดาวเทียมเจอลูกค้าแบบนี้  คงได้เจอกันแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ที่บ้านผมติดจาน KU 75 CM. 2 ใบ เพราะมีทีวีหลายเครื่อง ปรากฏว่าเครื่องแรก สัญญาณได้ 94/100 ส่วนอีกเครื่องได้ 85/90 แต่ปรากฏว่าเวลาฝนตก เครื่องที่รับสัญญาณได้ 94/100 ไปก่อนเลยครับ

ไม่น่าเชื่อ เลยครับ

ทำได้สัญญาณมากนั้นคือเวลาสภาพอากาศไม่ดีแบบครึ้มๆสัญญาณยังดีอยู่ แต่ได้น้อยสัญญาณจะอ่อนจนภาพเป็นโมเสค อีกอย่างหนึ่งคือเป็นเป็นวัดดัชนีความสาสารถในการทำดูโอ้ที่ดี ใช่ว่าใครจะทำง่ายๆแบบลวกๆ แล้วก็บอกว่าได้แค่นี้ เครื่องรับสัญญาณบางตัวก็มีค่าไม่เท่ากัน เช่นถ้าได้50แล้วดูไปแล้วไม่มีโมเสค ถือว่าผ่านแล้ว แต่ที่ได้50 แล้วมีโมเสค นี่แหละเจ้าของกระทู้ถึงมาโวยวายกับช่างที่ไม่มีความพยายาม เครื่องรับที่มีมาตรฐานควรจะได้เกณฑ์แบบเท่านั้นเท่านี้ เช่นจาน5.5 ฟุตจะได้ประมาณเท่าไหร่ หรือจาน5ฟุตจะได้เท่าไหร่ ***เครื่องที่ใช้ทำดูโอ้ต้องมีคุณภาพเที่ยงตรงด้วยไม่อ่อนและไม่แข็ง โดยเทสมาแล้วครับ

นี่ก็มาแปลก    ยังงัยผมก็ไม่เชื่อครับ 

ผมอ้างอิงจากบทความข้างล่างนี้ ผมนึกสงสารช่างติดจานจริงๆเวลาเจอลูกค้า อวดรู้ รู้ดี แต่ทำไม่เป็น
โน่นก็รู้  นี่ก็รู้  ทำไมไม่ทำเองหว่า  ผมถึงบอกว่ามาตราฐานควรแค่มาครบทุกช่องก็น่าจะพอแล้ว
ส่วนลูกค้า อยากได้ 70-90 ก็ทำเองซิ เห็นใจช่างติดจานมั้งครับ

ความแตกต่าง C-Band กับ Ku-Band

สัญญาณที่ส่งลงมา จากดาวเทียมที่สามารถรับในประเทศไทย ปัจจุบัน จะมีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบ C-Band และ KU-Band
ระบบ C-Band จะส่งคลื่นความถี่กลับมายังโลกในช่วงความถี่ 3.4-4.2 GHz แบบ นี้จะมีฟุตปริ้นกว้างสามารถส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ได้หลายประเทศ ซึ่งสัญญาณดาวเทียมที่รับได้ จากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นระบบนี้ แต่เนื่องจากสัญญาณครอบคลุมพื้นที่กว้าง ความเข้มสัญญาณจะต่ำ จึงต้องใช้จานขนาด 4-10 ฟุต รับสัญญาณ ภาพจึงจะชัด (รายการส่วนใหญ่เป็นฟรีทีวีของแต่ละประเทศ และส่วนมากสามารถรับชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน )
ระบบ KU-Band จะส่งคลื่นความถี่กลับมายังโลกในช่วงความถี่ 10-12 GHz สัญญาณ ที่ส่งครอบคลุมพื้นที่ได้น้อย ใช้กับการส่งสัญญาณภายในประเทศ ส่วนใหญ่ใช้กับระบบการให้บริการ เคเบิ้ลทีวี ภายในประเทศ ความเข้มสัญญาณจะสูง จึงใช้จานขนาดเล็ก 35-75 ซม. เช่น UBC (การรับทีวีผ่านดาวเทียมในระบบ KU-Band ส่วนใหญ่ต้องสมัครสมาชิกจึงจะรับชมได้)

 

C-Band & Ku-Band แตกต่างที่ตรงไหน


1. ความเข้มของสัญญาณในการส่ง C-Band จะเบากว่า Ku-Band เป็นเหตุผลในทางเทคนิค ตามข้อที่ 2
2. พื้นที่ครอบคลุมของสัญญาณ ( Beam Coverage Area) ระบบ C-Band จะใช้งานเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่รับสัญญาณได้กว้างขวางทั่วทั้งทวีป แต่ระบบ Ku-Band จะใช้เพื่อคลอบคลุมพื้นที่เฉพาะในประเทศ ในทางเทคนิคต้องส่งสัญญาณ C-Band ให้มีความเข้มของสัญญาณน้อยกว่า Ku-Band เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกันได้
3. ลักษณะของใบจานรับสัญญาณ C-Band จะเป็นตะแกรงโปร่ง หรือทึบ ทรงกลม ขึ้นรูปพาราโบลิค ขนาดทั่วไปเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5 - 10 ฟุต ส่วน Ku-Band จะเป็นจานทึบ Offset รูปไข่ ขนาด 0.35 - 1.80 เมตร
4. ขนาดของจานรับสัญญาณดาวเทียม จากเหตุผลข้อที่ 1 ทำให้ระบบ Ku-Band สามารถใช้ใบจานขนาดเล็กกว่า C-Band ค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น UBC จะใช้ใบจาน offset ขนาด 35 - 75 ซม. ก็สามารถรับสัญญาณได้ดี ในขณะที่ระบบ C-Band ต้องใช้จานขนาดใหญ่กว่าถึง 2-3 เท่า เพื่อให้รับสัญญาณได้ดี
5. ลักษณะของแผ่นสะท้อนของใบจาน ระบบ Ku-Band จะเป็นโลหะแผ่นเรียบจะเป็นอลูมีเนียม หรือ เหล็กชุบสี ในขณะที่ C-Band ส่วนใหญ่จะเป็นตะแกรงปั้มเป็นรูเล็กๆ จาน C-Band จานแบบทึบมีให้เห็นบ้างแต่น้อยมาก และไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากน้ำหนักมาก และต้านลม แล้วถ้าหากว่า จะใช้จานแบบ C-Band รับสัญญาณระบบ Ku-Band ได้มั้ย ตอบว่าได้แต่ในทางกลับกันจะเอาจาน Ku-Band มารับสัญญาณ C-Band ไม่ได้ นอกจากจะใช้จานขนาดใหญ่จริง ๆ
6. หัวรับสัญญาณ ซึ่งในทางเทคนิคเรียกว่า LNBF (Low Noise Block Down Frequency) เป็นตัวแปลงสัญญาณความถี่สูงให้ตำลงมาจนเหมาะสมกับภาครับของเครื่องรับสัญญาณ (Receiver) ซึ่งระบบ C-band จะรองรับความถี่ 3.4-4.2 GHz ในขณะที่ Ku-Band รองรับความถี่ 10-12 GHz จึงใช้แทนกันไม่ได้ อาจมีบางรุ่นที่ทำแบบ 2 in 1 คือ เอาหัว 2 ระบบบรรจุไว้ใน Case เดียวกัน
7. เครื่องรับสัญญาณ (Receiver) โดยทั่วไปไม่แตกต่างกันนอกจากผู้ผลิตจะเจตนาให้ตัวเครื่องรับได้เฉพาะระบบ เช่น เครื่องรับสัญญาณของ UBC จะไม่สามรถนำมาใช้รับสัญญาณระบบ C-Band ได้ โดยทั่วไปเครื่องรับสามารถรับสัญญาณได้ทั้ง 2 ระบบ เพียงตั้งค่า LNBF ให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

ข้อควรรู้เพิ่มเติม คือ ระบบ Ku-Band เป็น ระบบที่ส่งสัญญาณด้วยความถี่สูง ซึ่งจะมีปัญหาการรับสัญญาณในขณะฝนตกหนัก การเพิ่มขนาดใบจานอาจช่วยได้บ้างแต่ถ้าฝนตกหนัก เมฆหนาทึบ จะรับสัญญาณไม่ได้ ในขณะที่ C-Band จะเหนือกว่าตรงที่ไม่มีปัญหาขณะฝนตก