บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV

ทั้งสองค่ายบริการดีพอๆกัน ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน
ข้อที่ต้องพิจารณาว่าจะเลือกใช้ของค่ายไหน
นอกจากเรื่องบริการแล้ว ยังต้องดูว่าอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่นั้น
ในเมนูการทำ DDNS มีค่ายไหนให้ใช้บริการบ้าง
อุปกรณ์บางตัวไม่มีบริการ NO-IP แต่ DynDNS มีทุกตัว

DynDNS ยังมีบริการแบฟรีอยู่ แต่จำกัดสิทธิ์การใช้ เช่น
หนึ่งบัญชีสามารถทำ โฮส ได้แค่2ชื่อ และโดเมนให้เลือกจำกัด
เมื่อก่อนหนึ่งบัญชีสามารถทำได้ 5ชื่อ โดเมนมีให้เลือกเป็นร้อย

มีหลายปัจจัยที่ทำให้การใช้งานของ DDNS ไม่สมบูรณ์
หนึ่งในนั้นจะมีตัว Router รวมอยู่ด้วย
การเลือกใช้ Router ให้ถูกกับงาน จะทำให้คุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
Router หลายๆยี่ห้อ หลายๆรุ่น ใช้อินเตอร์เน็ทได้ดี
แต่ฟังชั่น DDNS ไม่ค่อยจะดีก็มีเยอะแยะ
Router ที่จะนำมาใช้ในการทำ DDNS
ควรจะมีฟั่งชั่นในการตรวจสอบการอัพเดท เช่น
เมื่อคุณทำ DDNS คุณใส่ User name, Password
และ Host name เสร็จแล้ว
นอกจากปุ่ม Save แล้วควรจะมีปุ่ม Connect หรือ Test
เมื่อคลิ๊ก Connect แล้ว จะรายงานผลว่าเป็นอย่างไร
User name, Password ผิดหรือไม่
Host name ใช้ได้หรือเปล่า ฯลฯ
ถ้าสมบูรณ์ดี ค่อยคลิ๊ก Save

อีกปัจจัยหนึ่งก็เรื่องสายโทรศัพท์ และกล่องแยกสัญญาน
บางที่มีการเดินสายโทรศัพท์พ่วงกันหลายเครื่อง ก่อนเข้า Router
ถ้าจะแก้อย่างง่ายแต่อาจจะทำยาก คือ
นำกล่องแยกสํญญาน ไปติดตั้งใกล้ที่กล่องกันฟ้าผ่าเลย
1.ถอดสายที่ต่อเข้าบ้านออก ต่อกับหัว RJ11 เสียบเข้าช่อง Phone
2.นำสายโทรศัพท์สั้นพอดี ปลายข้างหนึ่งเข้าหัว RJ11 เสียบเข้า Line
ปลายที่เหลืออีกข้าง ต่อเข้ากล่องกันฟ้าผ่าเดิม (ที่ถอดสายออก)
3.ที่กล่องแยกสัญญาน ช่องที่เหลือ DSL ใช้สายโทรศัพท์เข้าหัว RJ11
เสียบเข้าไป ปลายอีกข้างเข้าหัว RJ11 เสียบเข้าที่ Router
ถ้า Router อยู่ใกล้มากๆ ต้องเดินสายยาว แนะนำให้ใช้ที่มีขนาดความโต
ไม่น้อยกว่า 0.65 sqmm. หรือสายตีเกลียวแบบสายแลนจะดีที่สุด
ใช้คู่ที่ตีเกลียวแค่คู่เดียว ที่เหลือไว้เป็นอะไหล่ไม่ต้องดึงออกมา

เรื่องอีแมว เอ้ย! E-mail
ถ้าเป็นผมทำ ผมจะใช้อีเมล์ของลูกค้า
เวลาทางผู้ให้บริการ DDNS จะแจ้งอะไร ลูกค้าจะได้รู้ด้วย
และถ้าเป็นผมทำ ผมจะจดทุกอย่างที่จำเป็นให้ลูกค้าเก็บไว้ เช่น
1.User name, Password, และ Host name
ที่ลงทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการ DDNS
2.เลขไอพี และเลขพอร์ทของ DVR
3.เลขไอพี User name, และ Password, ของ Router
4.ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ท เช่น
4.1.PPPoE LLC หรืออื่นๆ
4.2.เลข VCI/VPI
4.3.User name และ Password ที่ใช้เข้าอินเตอร์เน็ท

สุดท้ายต้องไม่ลืมตั้งค่าให้ Router ต่ออยู่ตลอดเวลา
ถ้าหลุดให้ต่อใหม่ภายในเวลาที่รวดเร็ว เช่น
ถ้าตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง Connect on Demand ให้แก้เป็น
Alway Connect, Keep Alive - Redial Period, Auto reconnect
Router แต่ละยี่ห้อจะมีคำพูดที่ไม่เหมือนกัน คุณต้องดูเอง

Connect on demand คือถ้าไม่ใช้อินเตอร์เน็ทตามเวลาที่ตั้งไว้
จะตัดอินเตอร์เน็ท พอจะใช้แล้วจะต่อให้ใหม่ (ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็ดีแต่ DVR ไม่ดี)
Alway Connect, Keep Alive - Redial Period, Auto reconnect
คำพวกนี้คือจะต่ออยู่ตลอดเวลา ถ้าหลุดจะต่อให้ใหม่ภายในเวลาที่ตั้งไว้ แบบนี้ดีกับ DVR

พิมพิ์ซะยาวเลย ตรงไหนไม่ถูกต้องติได้ครับ จะได้แก้ให้ถูกต้องครับ